ความผิดข้อหาหมิ่นประมาท เป็นอย่างไร?
ผู้ที่ถูกใส่ความด้วยข้อความอันเป็นเท็จ ที่ทำให้เสียหายต่อชื่อเสียง ถูกดูหมิ่นเกลียดชัง ตามลักษณะของวิญญูชนทั่วไป ฉะนั้น พยานหลักฐานที่สำคัญที่สุด นั้นคือ ข้อความเท็จที่มีการใส่ความต่อผู้อื่น ที่ทำให้เสียหายต่อชื่อเสียง ถูกดูหมิ่นเกลียดชัง
ข้อความเท็จ คือ รู้ความจริงอยู่แล้ว แต่เจตนานำความเท็จไปกล่าวให้ผู้อื่นเกลีดชัง ผู้ถูกใส่ความ แต่การกล่าวเกี่ยวกับข้อกฎหมาย กล่าวเกี่ยวกับข่าวสารท้่วไป หรือการแสดงความคิดเห็นโดยสุจริต ต่างๆเหล่านี้นั้น ไม่ใช่การกล่าวข้อความเท็จ เพราะเป็นข้อยกเว้นความผิดข้อหาหมิ่นประมาท เพราะกฎหมายมุ่งเน้นเอาผิดกับข้อความที่ทำให้ชื่อเสียงอันเป็นส่วนบุคคลนั้นเสียหาย ไม่เป็นประโยชน์ในการกล่าวในสังคม
การกล่าวข้อความเท็จ ไม่จำเป็นต้องเป็นความผิดหมิ่นประมาทโดยการโฆษณาต่อไป เพราะ หมิ่นประมาทโดยการโฆษณานั้น มุ่งเน้นองค์ประกอบความผิดในลักษณะที่มีการเผยแพร่ทั่วไปต่อสาธารณะ หรือ เผยแพร่ให้ทั่วไปทราบ โดยมีการกระทำการเผยแพร่ ไม่ใช่แค่ใส่ความเท่านั้น อันเป็นข้อสำคัญ
การฟ้องคดีหมิ่นประมาทนั้น หน้าที่ในการนำสืบพยานหลักฐานเป็นของฝ่ายโจทก์ ฉะนั้น ต้องมีการแสวงหาพยานหลักฐาน และรวบรวมพยานหลักฐานโดยละเอียดก่อนฟ้องเสมอ
การตรวจสอบพยานหลักฐานหลักฐานโดยละเอียด เป็นประโยชน์ต่อคดี และเป็นประโยชน์ต่อตัวความเป็นอย่างมาก
ฉะนั้น เจตนา เป็นเรื่องสำคัญมากเช่นกัน ผู้กระทำความผิดต้องมีเจตนาชัดเจน ว่ารู้ความจริงแล้ว แต่ยังไปใส่ความด้วยข้อความเท็จทำให้ผู้อื่นเสียหาย การรวบรวมพยานหลักฐาน ให้เห็นการกระทำความผิดจึงสำคัญมาก
ดังนั้น ถ้ารู้ความจริงแล้ว พูดในลักษณะที่ไม่พาดพิงบุคคลที่สาม ย่อมไม่เป็นความผิด พูดในข้อกฎหมาย หรือพูดขั้นตอนของกฎหมายไม่เป็นความผิดหมิ่นประมาท นะครับ การจะดำเนินคดีกับผู้ใด ต้องมีพยานหลักฐานเสมอครับ
จัดพิมพ์โดย
ทนายความตรีสุพจน์ ตันตยาภิรมย์กุล
#ทนายความ #คดีหมิ่นประมาท #ฟ้องคดีอาญา #ต่อสู้คดีอาญา